การฟอกหนังเพื่อใช้ทำเครื่องหนังนั้น คืออะไร ตอนที่2

มาต่อกันเลยครับถึงวิธีการฟอกหนังวิธีที่ 2

2. การฟอกฝาด (Vegetable Tanning ) การฟอกประเภทนี้ จะนำสารสกัดประเภทแทนนินซึ่งสกัดได้จากเปลือกไม้พวกยูคาลิปตัส ควีบราโค และอื่นๆ มาเป็นตัวฟอก ทำได้ในถังไม้ปั่น หรือบ่อคอนกรีตที่ต่อแบบอนุกรม ( เรียง ๆ กันไป ) ทั้งนี้น้ำที่ใช้ฟอกแล้วสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก เพราะสารที่ใช้ฟอกนั้นเป็นสารจากธรรมชาติ

ขั้นตอนต่อมาคือการล้างหนัง ( Rinsing ) โดยการใช้กรดออกซาลิกล้างฝาดออกจากหนัง เพื่อล้างฝาดส่วนเกิน ซึ่งมีผลต่อคุณภาพหนังอย่างมาก จากนั้นหนังที่ได้จากทั้ง 2 วิธีการฟอกจะถูกนำไปรีดน้ำ เพื่อทำให้แห้ง และมีการเจียนผิวด้วยเครื่องตัดแต่ง และคัดเลือกเพื่อเก็บไว้รอจำหน่าย หรือแปรรูปตามความต้องการของตลาดต่อไป  หนังที่ได้จากการฟอกฝาดนี้จะมีน้ำหนักมากกว่า โดยมากมักจะนำำไปผลิตเป็นพื้นรองเท้า เข็มขัด แต่การฟอกฝาดจะมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าการฟอกโครม




หนังฟอกแบ่งตามลักษณะของหนังคือ หนังทรงหรือหนังชั้นนอก ( Upper Leather ) เป็นวัตถุดิบในการผลิตรองเท้า เข็มขัด และเฟอร์นิเจอร์

หนังท้องหรือหนังชั้นใน ( Side Leather ) นำมาทำถุงมือ และหนังซํบในต่างๆ เช่นซํบในรองเท้า กระเป๋าถือ เสื้อหนัง มีความอ่อนนุ่มกว่าหนังชั้นนอก

ส่วนการฟอกหนังแบบชาวบ้าน ข้อมูลจากหนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน ระบุว่า การฟอกหนังสัตว์ ให้รวบรวมหนังสัตว์หมักด้วยเกลือในอัตราส่วน 1:1 คือใช้หนังสัตว์ 1 ส่วน หมักเกลือ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้ทั่ว หมักไว้ไม่เกิน 1 เดือน จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด เตรียมฟอกย้อมด้วยการใช้โซเดียมซัลไฟล์ และปูนขาวเพื่อกำจัดขน ไขมัน และเศษเนื้อ หมักไว้ 1 สัปดาห์ นำมาล้างน้ำอีกครั้งจนสะอาดโดยใช้โครเมียมออกไซด์ในรูปผง 20-25% ต้มในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 66ุุ องศาเซลเซียส พร้อมเติมสีตามความต้องการนำขึ้น ผึ่งลมให้แห้ง หรือนำเข้าเครื่องอบจากนั้นนำออกตัดแต่งผืนหนังให้สวยงาม ตามความต้องการ


        เป็นอย่างไรบ้างครับ ดูถึงวิธีการฟอกหนังแล้วรู้ได้ทันทีเลยว่า กว่าจะเป็นเครื่องหนังมาให้เราใช้มียากแค่ไหน เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้วมาเืลือกดู เลือกหา เลือกซื้อเครื่องหนังที่มีคุณภาพ มีขั้นตอนการผลิตที่ดีมาใช้ให้ยาวนานดีกว่าไหมครับ



ขอบคุณครับแล้วเจอกันในเรื่องราวของเครื่องหนังในครั้งต่อไป

www.leatherformenshop.com