สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่ติดตาม Blog ของผมทุกท่านจะมีสักกี่คนครับที่ทราบถึงประวัติความเป็นมาของการฟอกหนังเพื่อนำมาทำเครื่องหนังวันนี้ผมมีประวัติของการฟอกหนัง ยุคโบราณ ยุคเริ่มต้นมาฝากครับ
หนังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอารยธรรม.
จากมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ได้ใช้ผิวหนังของสัตว์เพื่อสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของเขา.
He has used hides to make
clothing, shelter, carpets and even decorative attire.
เขาได้ใช้หนังสัตว์เพื่อ
ผลิตเสื้อผ้า สร้างที่พักอาศัย พรม และแม้แต่เครื่องตกแต่ง.
To the Egyptian lady, a fur
piece was highly prized as her jewellery.
ผู้หญิงในสมัยอียิปต์
ขนสัตว์ถูกใช้เป็นรางวัลแทนเครื่องประดับของเธอ.
From leather, man made
footwear, belts, clothing, containers for liquids, boats and even armour.
มนุษย์ใช้ประโยชน์จากหนังสัตว์
ทำรองเท้า เข็มขัด เสื้อผ้า ภาชนะบรรจุของเหลว เรือ
ไปจนกระทั่งชุดเกราะป้องกัน
The principle protective
armour of the Roman soldier was a heavy leather shirt.
เกราะป้องกันหลักของทหารโรมันคือเสื้อหนังสัตว์ที่มีความหนักและหนา
In recorded history, pieces of
leather dating from 1300 B.C. have been
found in Egypt.
ในบันทึกประวัติศาสตร์
การใช้หนังสัตว์เริ่มตั้งแต่1,300 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งพบในอียิปต์
Primitive societies in Europe,
Asia and North America all developed the technique of turning skins into leather
goods independently of one another.
สังคมดั้งเดิมใน ยุโรป เอเชีย
และ
อเมริกาเหนือทั้งหมดพัฒนาเทคนิคการฟอกหนังเป็นเครื่องหนังต่างๆโดยเป็นอิสระต่อกัน
The Greeks were using leather
garments in the age of the Homeric heroes (about 1200 B.C.), and the use of
leather later spread throughout the Roman Empire. Greeks
ชาวกรีกได้ใช้เสื้อผ้าหนังตั้งแต่สมัยของ Homeric
Heroes (ประมาณ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล)
และการใช้หนังสัตว์เป็นที่นิยมไปทั่วจักรวรรดิโรมัน.
During the Middle Ages, the
Chinese knew the art of making leather .
ในยุคกลาง
ชาวจีนได้เรียนรู้ศิลปะการทำหนัง.
The Indians of North America
also had developed great skills in leather work before the coming of the white
man.
อินเดียแดงในอเมริกาเหนือยังได้พัฒนาความสามารถในการผลิตและฟอกหนังสัตว์ก่อนการมาของคนผิวขาว.
At some time, by accident or
by trial and error, man discovered methods of preserving and softening leather
treating animal skins with such things as smoke, grease and bark extracts.
ในอดีตกาล
มนุษย์ทำให้ค้นพบวิธีการรักษาและการทำให้นิ่ม ด้วยสิ่งต่างๆ เช่น ควัน ไขมัน และ
สารสกัดเปลือกไม้ ไม่ว่าจะโดยบังเอิญหรือโดยการลองผิดลองถูกก็ตาม.
The art of tanning leather
using the bark of trees probably originated among the Hebrews.
ศิลปะของการฟอกหนังโดยใช้เปลือกไม้ของต้นไม้คาดว่ามาจากชาวฮิบบรู
As civilisation developed in
Europe, tanners and leather workers united in the trade guilds of the Middle
Ages, as did the craftsmen in other fields.
ในความเป็นมาของอารยธรรมยุโรป
นักฟอกหนัง และผู้ผลิตเครื่องหนังรวมตัว ในสมาพันธ์การค้าของสมัยกลางเช่นเดียวกับ
ผู้เชี่ยวชาญหัตถกรรมด้านอื่นๆ.
Royal charters or licences
were issued permitting people to practice leather tanning.
จะมีการออกใบอนุญาตให้ผู้ที่ปฏิบัติการฟอกหนัง
จากคนในราชวงศ์.
In the nineteenth century,
vegetable tanning, i.e., tanning using the extracts from the bark of certain
kinds of trees, was supplemented by chrome tanning. This process uses chemicals and today accounts for
about eighty to ninety percent of all tanning done except for the leather used
in the soles of shoes and tooling leathers.
ในศตวรรษที่สิบเก้า
การฟอกหนังฝาด (การฟอกหนังโดยใช้สารสกัดจากเปลือกไม้ของต้นไม้บางชนิด)
ได้ถูกแทนที่ด้วยการฟอกด้วยโครเมี่ยม
ซึ่งกระบวนการนี้ใช้สารเคมีและ เป็นที่แพ่รหลายในปัจจุบัน ซึ่งประมาณ 80 ถึง 90
เปอร์เซ็นต์ของการฟอกหนังทั้งหมด นอกจากหนังที่ใช้ในการผลิต
พื้นรองเท้าและเครื่องมือต่างๆ.
ที่มาจาก: Wikipedia.com
www.leatherformenshop.com